ทำไมความปลอดภัยไซเบอร์ในภาคการศึกษาถึงมีความสำคัญ และจะมีวิธีป้องกันจากการโจมตีอย่างไร
แนวโน้มที่น่ากังวลในช่วงไม่กี่ปีมานี้คือจำนวนการโจมตีทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นในสถานศึกษา ทั้งต่างประเทศและในประเทศไทย ภาคการศึกษาได้กลายเป็นเป้าหมายสำคัญ หน่วยงานข้อมูลของสหราชอาณาจักร (ICO) รายงานว่าการโจมตีโรงเรียนเพิ่มขึ้นถึง 55% ระหว่างปี 2022 ถึง 2023 และแนวโน้มนี้ก็เกิดขึ้นทั่วโลกด้วย ลองมาดูว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ และมีวิธีไหนบ้างที่โรงเรียนจะป้องกันตัวเองได้
ทำไมอาชญากรไซเบอร์ถึงชอบโจมตีโรงเรียน

มีหลายปัจจัยที่ทำให้โรงเรียนตกเป็นเป้าหมายสำคัญของการโจมตีทางไซเบอร์ ดังนี้:
- 1. มีการพึ่งพาเทคโนโลยี โรงเรียนและสถาบันการศึกษาหลายแห่งกำลังเปลี่ยนไปใช้ระบบดิจิทัลมากขึ้น ทำให้ต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐาน IT ทั้งในห้องเรียนและฝ่ายบริหารของโรงเรียน และแนวทางการป้องกันภัยทางไซเบอร์ยังคงขาดประสิทธิภาพในหลายแห่ง
- 2. ข้อมูลที่มีค่า โรงเรียนมีการเก็บข้อมูลที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลนักเรียน บุคลากร และข้อมูลการเงิน เป็นสิ่งที่เหล่าแฮกเกอร์ต้องการ และการละเมิดข้อมูลเหล่านี้อาจสร้างความเสียหายได้
- 3. ทรัพยากรจำกัด งบประมาณของโรงเรียนมักจะจำกัด และการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะด้าน IT โดยเฉพาะความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ประเด็นนี้ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยง
- 4. ความรู้ความเข้าใจด้านไซเบอร์ที่ยังไม่เพียงพอ ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนหลายคนยังขาดความรู้ในการป้องกันภัยไซเบอร์ ซึ่งทำให้ตกเป็นเหยื่อการโจมตีแบบฟิชชิ่ง การติดมัลแวร์ และภัยอื่น ๆ ได้ง่าย
ทั้งหมดนี้ทำให้สถานศึกษาเป็นเป้าหมายที่ง่ายดายในการโจมตี และเมื่อการโจมตีประสบความสำเร็จ ก็มักได้รับความสนใจจากสาธารณชน ทำให้อาชญากรสามารถใช้ประโยชน์ในกรณีที่มีการเรียกค่าไถ่จากการโจมตี ransomware
การโจมตีทางไซเบอร์ในภาคการศึกษามีผลกระทบร้ายแรงกว่าในภาคธุรกิจ การปิดโรงเรียนเพราะการโจมตีทางไซเบอร์ส่งผลให้เด็กนักเรียนขาดการเรียนรู้ ส่งผลต่อผลการเรียน และผู้ปกครองต้องรับภาระเพิ่มเติมในการจัดการดูแลบุตรหลาน
ตัวอย่างการโจมตีทางไซเบอร์ในภาคการศึกษา
การโจมตีโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นบ่อยจนมีข่าวให้เห็นอยู่เสมอ เช่น
- การโจมตีที่เกิดขึ้นกับ Highline Public Schools ในรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ทำให้โรงเรียนทั้ง 34 แห่งต้องปิดการเรียนการสอนชั่วคราว ซึ่งมีนักเรียนได้รับผลกระทบมากถึง 17,000 คน
- ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ประกาศว่ามีแฮกเกอร์ลบข้อมูลใน iPad และ Chromebook ของนักเรียนถึง 13,000 เครื่อง
- ในเดือนมิถุนายน โรงเรียนในเขต Toronto District School Board ซึ่งดูแลโรงเรียนมากถึง 600 แห่งในเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา ถูกโจมตีด้วย ransomware
- ในเดือนพฤษภาคม Western Sydney University หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียก็ถูกโจมตีระบบ IT
- สำหรับประเทศไทย ก็เคยมีกรณีการโจมตีทางไซเบอร์ในภาคการศึกษาที่สำคัญ เช่น ในปี 2023 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (SUT) ได้เผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่ทำให้ระบบการจัดการข้อมูลส่วนตัวของนักเรียนและบุคลากรหยุดชะงักเป็นเวลาหลายวัน ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและการเรียนการสอน ทั้งนี้ยังมีการรายงานว่า ข้อมูลบางส่วนถูกลักลอบนำไปขายในตลาดมืด ทำให้ต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างเร่งด่วน
วิธีป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ในโรงเรียน
เมื่อภาคการศึกษากลายเป็นเป้าหมายหลัก โรงเรียนต้องมีระบบป้องกันที่แข็งแกร่ง และเหมาะสำหรับโรงเรียนขนาดเล็กที่มักไม่มีงบประมาณและบุคลากรเพียงพอ ทางเลือกที่ดีคือใช้ซอฟต์แวร์ที่ออกแบบสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เช่น Kaspersky Small Office Security ซึ่งมีคุณสมบัติที่ครบถ้วนในการป้องกันภัยเบื้องต้น ได้แก่
– การป้องกัน ransomware และมัลแวร์
– ระบบสำรองข้อมูลอัตโนมัติ
– โปรแกรมจัดการรหัสผ่าน
– การสแกนหาช่องโหว่ของระบบ
นอกจากการใช้ซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจขนาดเล็กติดตั้งง่ายและไม่ต้องมีผู้เชี่ยวชาญในการดูแล โรงเรียนควรจัดการอบรมให้บุคลากรมีความรู้เรื่องภัยคุกคามไซเบอร์ ควบคู่กันด้วย เรามีราคาพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ ทั้งภาครัฐและเอกชน
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://kaspersky.icom.co.th/sme-security-for-business-kaspersky/
หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายดูแลลูกค้าองค์กร 02-203-7599