หากผู้ไม่หวังดี เข้าถึง Wi-Fi ได้ ก็สามารถทำสิ่งที่เป็นอันตรายได้!!
เมื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ของเราได้ ก็ขโมยข้อมูลและ/หรือโจมตีแรนซัมแวร์ ได้อย่างง่ายดาย⚠️
.
เช่น ส่งสแปม หรือการโจมตี DDoS ผู้โจมตีสามารถแฮ็กอุปกรณ์บนเครือข่าย Wi-Fi ที่ค้นพบเพียงครั้งเดียวได้ (ตัวเราเตอร์ ที่เก็บข้อมูลที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายภายในบ้าน (NAS) กล้องวงจรปิด หรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย) จากนั้นใช้เป็น proxy server โดยไม่ต้องอาศัย “บริการ” Wi-Fi เพิ่มเติม ส่งผลให้อินเทอร์เน็ตของช้าลง ที่อยู่ IP เข้าไปอยู่ในลิสต์รายการที่ถูกปฏิเสธ
📌วิธีป้องกันการรั่วไหลของ Wi-Fi
- เปลี่ยนการตั้งค่า Wi-Fi ที่มาจากโรงงาน ในการตั้งค่า Wi-Fi ให้เลือกการเข้ารหัส WPA2 หรือ WPA3
- เปลี่ยนรหัสผ่านเครือข่าย Wi-Fi และอัปเดตการตั้งค่าบนอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ ใช้รหัสผ่านที่รัดกุมและยาวเสมอ เมื่อทำการเปลี่ยนรหัส ควรสร้างรหัสผ่านแบบสุ่มแทนที่จะเพิ่มตัวเลขหรือตัวอักษรต่อท้าย เรื่องรหัสผ่านที่ปลอดภัย Kaspersky Password Manager ซึ่งมีอยู่ใน Kaspersky Plus และ Premium จะช่วยคุณได้
- ควบคุมการเข้าถึงที่เข้มงวด สำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ Wi-Fi การจัดการสิทธิ์การเข้าถึง Wi-Fi ในระดับอุปกรณ์จะช่วยได้ กำหนดค่าเราเตอร์ของคุณเพื่อป้องกันอุปกรณ์ที่ไม่รู้จักพยายามเชื่อมต่อ Wi-Fi ของคุณ
- ห้ามมิให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตหรืออุปกรณ์ใดๆ บนเครือข่ายในบ้านของคุณ จนกว่าคุณจะอนุญาตอย่างชัดเจน
- เพื่อปกป้อง Wi-Fi ที่บ้านของคุณจากบุคคลภายนอก เราขอแนะนำ Kaspersky Premium ซึ่งมีฟีเจอร์ ช่วยจัดการเครือข่ายในบ้านของคุณโดยอัตโนมัติ และระบุชื่อและประเภทของอุปกรณ์แต่ละเครื่อง หลังจากนั้นจะตรวจสอบเครือข่ายอย่างต่อเนื่องเพื่อดูลักษณะของ “คนแปลกหน้า” และเตือนคุณหากมีอุปกรณ์ใหม่ที่ไม่รู้จักปรากฏขึ้น หากมีบางอย่างในรายการดูผิดปกติ คุณสามารถตรวจสอบและดำเนินการได้ ตั้งแต่การเปลี่ยนรหัสผ่าน Wi-Fi ไปจนถึงปิดการใช้งานอุปกรณ์ที่ไม่รู้จัก