Frequently asked questions / FAQ

การตรวจสอบสถานะความปลอดภัย

โปรแกรม Kaspersky หลังการติดตั้งเรียบร้อยสมบูรณ์ ทุกพีเจอร์จะเปิดใช้งานทำงานแบบอัตโนมัติ โดยไม่จำเป็นต้องตั้งค่าใดๆเพิ่มเติม

ลูกค้าสามารถดูสถานะความปลอดภัยได้ที่ หน้าแรกของโปรแกรม จะแสดงสถานะต่างๆ ดังต่อไปนี้

1. สถานะเป็นสีเขียว : สถานะที่ปลอดภัย ปราศจากไวรัส

2. สถานะเป็นสีเหลือง : สถานะที่มีความเสี่ยง ที่น่าสงสัย รอการตรวจสอบ

3 สถานะเป็นสีแดง : สถานะที่ไม่ปลอดภัยและอันตราย ต้องตรวจสอบโดยเร่งเด่วน

สถานะโปรแกรมเป็นสีเหลือง  หรือ สีแดง

สถานะโปรแกรม Kaspersky เป็นสีเหลือง 

แนวการแก้ไข และ ตรวจสอบดังนี้

1.กดที่เมนู Details   จะมีรายละเอียดแจ้ง พร้อมวิธีการแก้ไขและจัดการ

2.กดที่เมนู Enable  เพื่อให้พีเจอร์สำคัญ  ที่ถูกปิด  กลับมาเปิดทำงานได้ตามปกติ

  ตามภาพ คือ ตัวอย่าง กรณีที่พีเจอร์สำคัญของโปรแกรมถูกปิด  หรือ Disable

สถานะโปรแกรม Kaspersky เป็นสีแดง

แนวการแก้ไข และ ตรวจสอบดังนี้

1.กดที่เมนู Details  จะมีรายละเอียดแจ้ง พร้อมวิธีการแก้ไข และ จัดการ

จะพบรายละเอียด เช่น ชื่อ ,ชนิด มัลแวร์ และ ตำแหน่ง พี่พบไฟล์

2. ผู้ใช้งานตรวจสอบตำแหน่งที่พบของไวรัส   และตัดสินใจเพื่อให้โปรแกรมแคสเปอสกี้ กำจัดเพื่อทำการแก้ไข  กดที่เมนู Resolve

3.รอดำเนินการสักครู่  เมื่อเรียบร้อย  สถานะของโปรแกรมจะกลับเป็นสีเขียว

ตามภาพ คือ ตัวอย่าง การพบไฟล์ไวรัส ในตำแหน่ง Download การจัดการ ให้กดที่ เมนู Resolve หรือ Fix เพื่อดำเนินการกำจัดไวรัสหรือแก้ไข สถานะกลับมาเป็นสีเขียวปกติ

การสแกนไวรัส

การสแกนของโปรแกรมแคสเปอสกี้ จะสแกนแบบเรียวไทม์ เมื่อพบไฟล์ที่น่าสงสัยและเป็นอันตราย จะกำจัดไวรัสและภัยคุกคามแบบอัตโนมัติ

การสแกนแบ่งได้ 5 แบบ ดังต่อไปนี้

  1. Quick Scan การสแกนแบบเร่งด่วน
  2. Removable Drive Scan การสแกนอุปกรณ์เชื่อมต่อ
  3. Selective Drive Scan การสแกนบางไดร์ หรือบางโฟร์เดอร์
  4. Full Scan การสแกนแบบละเอียดทุกไฟล์ทุกอุปกรณ์
  5. Application Vulnerability Scan สแกนตรวจสอบช่องโหว่ของแอปพลิเคชัน

1 Quick Scan การสแกนแบบเร่งด่วน
คือ การกำหนดการต้องการ Quick Scan การสแกนแบบเร่งด่วน สแกนเฉพาะไฟล์ที่มีนามสกุลเฉพาะที่มีความเสียง นามสกุลสาคัญ เช่น exe, inf, cmd, bat

วิธีการ ไปที่หน้าแรกของโปรแกรม เมนู Home เลือก Quick Scan กด Run เพื่อเริ่มดำเนินการสแกน

 

2 Scan Removable Drive : การสแกนอุปกรณ์เชื่อมต่อ

คือ การกำหนดการต้องค่าการ scan removable drives เช่น Thumb drives, External Hard disk เมื่อมีการเชื่อมต่อมายังเครื่องคอมพิวเตอร์
วิธีทำ ไปที่หน้าแรกของโปรแกรม เมนู Home

1 เลือกเมนู  Security  ไปที่   Scan  
2 เลือกเมนู  Choose Scan  

3 เลือกเมนู Removable Drive Scan กด Run   เพื่อเริ่มดำเนินการสแกน

3.Scan Selective Scan การสแกนเฉพาะ Drive หรือ Folder

1 เลือกเมนู  – Security  ไปที่  Scan  
2 เลือกเมนู  Choose Scan 

3 เลือกเมนู Scan Selective Scan กด Run   เพื่อเริ่มดำเนินการสแกน


4 Full Scan  การสแกนแบบละเอียดทุกไฟล์ในอุปกรณ์ในเครื่องและอุปกรณ์ต่อพ่วง

1 เลือกเมนู  – Security  ไปที่   Scan  
2 เลือกเมนู  Choose Scan 

3 เลือกเมนู Full Scan กด Run   เพื่อเริ่มดำเนินการสแกน

5.Application Vulnerability Scan สแกนตรวจสอบช่องโหว่ของแอปพลิเคชัน

คือ การกำหนดต้องการ Application Vulnerability Scan สแกนตรวจสอบช่องโหว่ที่มีอยู่ในแอปพลิเคชัน โดยใช้เครื่องมือตรวจสอบช่องโหว่และเทคนิคกเฉพาะของ Kaspersky

1 เลือกเมนู  – Security  ไปที่  Scan  

2 เลือกเมนู  Choose Scan 

3 เลือกเมนู Application Vulnerability Scan กด Run   เพื่อเริ่มดำเนินการสแกน


วิธีการกำจัด และ จัดการเมื่อพบไวรัส

ปกติโปรแกรม Kaspersky จะทำการกำจัดไวรัสและภัยคุกคามแบบอัตโนมัติ ตามที่มีในฐาน Database KSN( Kaspersky Security Network) เพื่อให้ โปรแกรมได้กำจัด อัตโนมัติ แบบเรียลไทม์
ยกเว้นในบางกรณี ที่มีรูปแบบ การจัดการ 4 แบบดังต่อไปนี้


1. การจัดการไวรัส แบบ Delete (ลบ)
2. การจัดการแบบ Disinfect (ฆ่าเชื้อ)
3. การจัดการแบบ Quarantine ( การกักกัน)
4. การจัดการแบบ Resolve or Fix ( การจัดการแก้ไข)

การจัดการไวรัส แบบ Delete ลบ (Manual)

ส่วนใหญ่ไวรัสประเภท โทรจัน (โปรแกรมที่ไม่ประสงค์ดีต่อเครื่องอาจจะมีความเสี่ยงทำอันตรายต่อเครื่องคอมพิวเตอร์เราภายหลังได้

มักพบในตำแหน่งสำคัญ เช่น C:Program file/Program Data… จึงจะพบ Pop up แจ้งเตือนผู้ใช้งาน คำแนะนำ ดังต่อไปนี้

1.ตรวจสอบตำแหน่ง Location ที่พบ , ชื่อ Program โปรแกรม ว่ารู้จัก หรือ จำเป็นต้องใช้งานโปรแกรมนั้น หรือไม่ ?

หากไม่รู้จัก  หรือ ไม่ใช้งานโปรแกรมนั้น   ซึ่งผู้ใช้งานอาจจะเผลอโหลดโปรแกรม Freeware และแอบติดตั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือไม่ได้รับอนุญาต

2.กด  Apply to all objects of this type.  (  เพื่อให้จัดการกับไวรัสชนิดนี้ทั้งหมดทุกไฟล์)

3.กดเมนู   Delete   เพื่อทำการจัดการกับไวรัส  แบบ  ลบไวรัสชนิดนี้ทั้งหมดทุกไฟล์

เมนูอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

Skip คือ ข้ามการจัดการกับไวรัสที่พบไปก่อน

Add to Exclusions คือ การเพิ่มการยกเว้น การจัดการ หรือ การตรวจสอบ ไวรัสชนิดนี้ไปก่อน

การจัดการแบบ Disinfect (การจัดการแบบฆ่าเชื้อ)

มักพบไวรัส ในตำแหน่งสำคัญของระบบ System Windows / Program Data/Appsdata โปรแกรม Kaspersky จะบังคับให้เลือก
แนะนำให้ผู้ใช้งาน กดปุ่มนี้ Disinfect and restart the computer. คือ พยายามฆ่าเชื่อไฟล์ที่ติดไวรัสทั้งหมดที่ตรวจพบโดยอัตโนมัติ และ รีสตาร์เครื่องคอมพิวเตอร์
เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยหายต่อ ระบบ Windows. /หรือตำแหน่งไฟล์ที่พบไวรัส หลังจากรีสตาร์เครื่องเรียบร้อย ให้ผู้ใช้งาน ทำการเปิดโปรแกรม เพื่อตรวจสอบสถานะของโปรแกรมอีกครี้ง

หากสถานะเป็นสีเขียว ถือกำจัดไวรัสเรียบร้อย

*   นี่เป็นตัวอย่างกรณีที่ โปรแกรม Kaspersky ตรวจสอบไวรัส หรือไฟล์อันตราย  ในตำแหน่งสำคัญ

เมนูอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

Disinfect, delete if disinfect fails คือ พยายามฆ่าเชื่อไฟล์ที่ติดไวรัสทั้งหมดที่ตรวจพบโดยอัตโนมัติ หากการฆ่าเชื้อ ล้มเหลว จะลบไฟล์เหล่านี้ออก

Disinfect, Block if disinfect fails คือ พยายามฆ่าเชื่อไฟล์ที่ติดไวรัสทั้งหมดที่ตรวจพบโดยอัตโนมัติ หากการฆ่าเชื้อ ล้มเหลว จะบล็อกไฟล์เหล่านี้

การจัดการแบบ Quarantine    (การจัดการแบบกักกัน)

โปรแกรม Kaspersky กำจัดแบบ Delete ลบ แต่ยังทำการกักกัน ,คัดลอกและสำรองไฟล์ที่ถูกลบไปแล้ว เก็บไว้ในช่องพิเศษ

ผู้ใช้งาน สามารถเข้ามาตรวจสอบไฟล์ที่ลบ อีกครั้ง เลือกจัดการเพิ่มเติม

ตัวเลือกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

เลือก Delete เพื่อ ลบรายการที่ต้องการลบ แบบถาวร
เลือก Remove All เพื่อ ลบรายการที่ทั้งหมด แบบถาวร
เลือก Restore เพื่อ กู้รายการที่ถูก ลบ กลับคืนมา
มักเป็นกรณีที่เป็นมัลแวร์ที่ไม่รุ้จัก หรือไม่ระบุชนิดหรือประเภทของมัลแวร์ หรือชนิดที่ไม่ส่งผลร้ายแรงต่อเครื่อง อาจจะไฟล์โปรแกรมเฉพาะ หรือเป็นโปรแกรม Start up ที่อยู่ขั้นตอนการพัฒนา

การจัดการ แบบ Resolve or Fix (  การแก้ไข)

ส่วนใหญ่ไฟล์ที่พบจะอยู่ในตำแหน่ง  Program Data/Appsdata/Download

ผู้ใช้งานตรวจสอบตำแหน่งที่พบของไวรัส   และตัดสินใจเพื่อให้โปรแกรมแคสเปอสกี้ กำจัดเพื่อทำการแก้ไข  กดที่เมนู Resolve

รอดำเนินการสักครู่  เมื่อเรียบร้อย  สถานะของโปรแกรมจะกลับเป็นสีเขียว

*   นี่เป็นตัวอย่างกรณีที่ โปรแกรม Kaspersky ตรวจสอบพบไฟล์ ที่ดาวโหลดมา เป็นไฟล์อันตราย  ในตำแหน่งสำคัญ

ดูรายงานการสแกน

เมื่อดำเนินการสแกนครบ 100 % เสร็จสิ้นแล้ว  สามารถตรวจสอบผลการสแกนได้ที่

1.แถบ Security  

2.เมนู Reports

ผลิตภัณฑ์หลักทั้งหมด

มีทั้งหมด 4 แบบ ดังต่อไปนี้

  • Kaspersky Standard
  • Kaspersky Plus
  • Kaspersky Premium
  • Kaspersky Small Office Security

หน้าตาโปรแกรม และ แอปพิเคชั่น

หน้าตาโปรแกรม Interface Program Kaspersky

Kaspersky Standard

Kaspersky Plus

Kaspersky Premium

Kaspersky Small Office Security

ตัวอย่าง แอปพิเคชั่น Kaspersky บนมือถือ Android และ iOS

ตัวอย่าง โปรแกรม หรือ แอป Kaspersky Password Manager

ตัวอย่าง โปรแกรม หรือ แอป Kaspersky VPN

วิธีดูจำนวนอุปกรณ์ที่เปิดใช้งาน



จำนวนอุปกรณ์ที่เปิดใช้งาน สินค้าสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป มี 3 แบบ : 1 /3 / 5 Devices/อุปกรณ์

*Device คือ อุปกรณ์ ประกอบไปด้วย คอมพิวเตอร์ พีชี โน๊ตบุ๊ก แท็บเลท มือถือ

วิธีดูอายุการใช้งานของโปรแกรม และ วันหมดอายุ

โปรแกรม  Kaspersky   แสดงสถานะ ว่า   “Subscription is  Active ”    เป็นอันเปิดใช้งานผลิตภัณฑ์เรียบร้อย

**  Activation  Code บางประเภท    จะมีการบวกวันเพิ่ม หรือขยายอายุการใช้งานเพิ่ม
         1  ปี  (365+15  = 380 วัน)
          2  ปี  ( 730+15 = 745 วัน)

Activation code  ของเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ที่มีการเพิ่ม 15 วัน ภายใน 3 วัน จึงจะแสดงจำนวนอายุการใช้งานจริงของผลิตภัณฑ์  และ วันหมดอายุ

รายละเอียดบัญชีที่เชื่อมต่อ Mykaspersky Menu

จะแสดงบัญชีชื่อบัญชีที่เมนู Profile ตามภาพตัวอย่างด้านล่าง

ทำไมต้องลงทะเบียน

การลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ คือ การลงทะเบียนรับรหัสติดตั้งโปรแกรม สำหรับนำไปป้อนในโปรแกรม 

เพื่อเปิดใช้งานผลิตภัณฑ์แคสเปอสกี้  พร้อมสิทธิประโยนช์มากมาย  ดังนี้

–   รหัสติดตั้งโปรแกรม 20 หลัก พร้อมลิงก์ดาวโหลดและคู่มือการเปิดใช้งาน สำหรับ ทุกอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ มือถือ

–   สิทธิ์ประโยชน์ในการซื้อต่ออายุในราคาพิเศษต่ออายุได้ทุกๆปี

–   พร้อมบริการหลังการขายทีมผู้เชียวชาญในประเทศไทย ตลอดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์

–   ค้นหาในกรณี รหัสติดตั้งโปรแกรมสูญหาย,  เปลี่ยนเครื่อง , ย้ายเครื่อง ,ล้างเครื่องลงวินโดร์ใหม่

ขั้นตอนการลงทะเบียน

1.เข้าที่ www.kaspersky.icom.co.th

2.เลือกปุ่มลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

เลือกลงทะเบียนตามชนิดของผลิตภัณฑ์

สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

การลงทะเบียนผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใช้ใหม่ / New Package

1 กรอก Serial Number

2.กด ตรวจสอบ / Check

3. กรอกข้อมูล ตามที่ระบบร้องขอ กด ลงทะเบียน /Register

เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ ระบบจะแสดงรหัสติดตั้งโปรแกรม พร้อมส่ง อีเมล E-mail  และ  ข้อความ  SMS 

การลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ต่ออายุ / Extend Licence Package

1 .เลือกเมนู การลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ต่ออายุ / Extend Licence Package

และ กรอกรหัสติดตั้งโปรแกรมเดิม 20 หลัก กด ตรวจสอบ / Check 

2. กรอก Serial Number
ตามด้วย ข้อมูลที่ระบบร้องขอ กด ลงทะเบียน /Register

เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ ระบบจะแสดงรหัสติดตั้งโปรแกรม พร้อมส่ง อีเมล E-mail และ  ข้อความ  SMS 

การลงทะเบียนผลิตภัณฑ์แบบรายเดือน / Monthly package

– กรอกหมายเลขผลิตภัณฑ์ 12 หลัก  /Serial Number กด ตรวจสอบ / Check

กรอกข้อมูล ตามที่ระบบร้องขอ กด ลงทะเบียน /Register

กรอกข้อมูล.png

เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ พบ ปุ่ม Get Activation Code  สำหรับกดรับรหัสติดตั้งโปรแกรม และส่งไปที่อีเมลและ SMS 

การป้อน Code ชุดใหม่    ในโปรแกรมเวอร์ชั่นล่าสุด

1. เปิดโปรแกรม Kaspersky   กด ที่เมนู Profile  ที่มีสถานะ หมดอายุ   “Subscription is  Expired  “

2. กดที่ จุด … สามจุด

3. เลือก Enter Activation Code

4.ป้อนรหัสติดตั้งโปรแกรม Activation Code 20  หลัก

  • ตัวอย่าง Activation code (รหัสติดตั้งโปรแกรม 20 หลัก )
  • ** แบบกล่องที่ได้รับจากอีเมลที่ใช้ในการลงทะเบียน หรือ อีเมลที่ใช้ในการสั่งซื้อออนไลน์ ตามภาพตัวอย่างด้านล่าง

5.กด Activate

6. ให้ทำการ Sign in   บัญชี Mykaspersky   ที่มีการเพิ่ม Code ใหม่ เรียบร้อยแล้ว

หากยังไม่มีบัญชี Mykaspersky สามารถกดเลือก Skip เพื่อข้ามขั้นตอนนี้ไปก่อน

** สำหรับ Kaspersky Premium จำเป็น  sign in   บัญชี Mykaspersky    เพื่อทำการ Activate Product.

7. กด Done  เป็นอันเรียบร้อย

  • ตัวอย่าง หน้าตาโปรแกรมที่มีการ Activated เปิดใช้งานเรียบร้อย สมบูรณ์

เงื่อนไขใหม่เกี่ยวกับ License / Subscription

โปรแกรม  Kaspersky   แสดงสถานะ ว่า   “Subscription is  Active ”    เป็นอันเปิดใช้งานผลิตภัณฑ์เรียบร้อย

**  Activation  Code บางประเภท    จะมีการบวกวันเพิ่ม หรือขยายอายุการใช้งาน

         1  ปี  (365+15  = 380 วัน)

          2  ปี  ( 370+15 =745วัน)

ภายใน  3  วัน หลังจาก Activate จะแสดงจำนวนอายุการใช้งานจริงของผลิตภัณฑ์  และ วันหมดอายุของผลิตภัณฑ์

การป้อน Code ชุดใหม่ หรือ การต่ออายุผ่านบัญชี My Kaspersky Account

1.เข้าที่ https://my.kaspersky.com/ เลือก Sign in หรือ ลงชื่อเข้าใช้

2 คลิก  Subscriptions / การสมัครใช้บริการ  เลื่อนล่างสุด  Enter Activation Code ชุดใหม่  กด Add /เพิ่ม
*หลังจากหมดอายุ ระบบจะดึงรหัสชุดใหม่ต่ออายุอัตโนมัติ

3.คลิก   Devices / อุปกรณ์     ไปที่ อุปกรณ์ที่การติดตั้งโปรแกรม Kaspersky  

เลือกที่เมนู Select  Subscription another. /  เลือกใบอนุญาตใช้งานอื่น

เลือก Subscription ที่ต้องการ เป็นอันเรียบร้อย

การป้อน Code ชุดใหม่ ในโปรแกรมเวอร์ชั่นเดิม

สำหรับเครื่องที่มีโปรแกรมเดิม Kaspersky Antivirus /Internet Security /Total Security    มีขั้นตอนดังต่อไปนี้

จำเป็นต้อง หมดอายุก่อน จึงจะทำการ Activate code ชุดใหม่ได้

มีขั้นตอนดังต่อไปนี้

1.เปิดโปรแกรมหลักของ Kaspersky

2.ป้อน Activation Code 20  หลัก ที่ได้รับจากอีเมลคำสั่งซื้อ หรือ อีเมลที่ท่านลงทะเบียนผลิตภัฑณ์ 

กด Activate

3 .ให้ทำการ sign in   บัญชี Mykaspersky   ที่มีการเพิ่ม Code ใหม่ เรียบร้อยแล้ว

หากยังไม่มีบัญชี Mykaspersky สามารถกดเลือก Skip เพื่อข้ามขั้นตอนนี้ไปก่อน

4. กด Done เป็นอันเรียบร้อย

ตัวอย่าง หน้าตาโปรแกรมที่มีการ Activated เปิดใช้งานเรียบร้อย สมบูรณ์

เงื่อนไขใหม่เกี่ยวกับ License / Subscription

โปรแกรม  Kaspersky   แสดงสถานะ ว่า   “Subscription is  Active ”    เป็นอันเปิดใช้งานผลิตภัณฑ์เรียบร้อย

**  Activation  Code บางประเภท    จะมีการบวกวันเพิ่ม หรือขยายอายุการใช้งาน

         1  ปี  (365+15  = 380 วัน)

          2  ปี  ( 370+15 =745วัน)

ภายใน  3  วัน หลังจาก Activate จะแสดงจำนวนอายุการใช้งานจริงของผลิตภัณฑ์  และ วันหมดอายุของผลิตภัณฑ์

โปรแกรมจะทำการแจ้งเตือน ให้ทำการอัพเกรดเวอร์ชั่นใหม่  ตามภาพตัวอย่างนี้ 

ให้ทำการ  Click Install now  เพื่อทำการอัพเกรดจาก Kaspersky เวอร์ชั่นเดิม เป็น Kaspersky เวอร์ชั่นล่าสุดอัตโนมัติ

**ไม่จำเป็นต้องถอนโปรแกรมเดิมออกก่อนติดตั้งเวอร์ชั่นใหม่

การเปิดใช้งาน Kaspersky VPN (สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows )

เปิดใช้งานโปรแกรม Kaspersky Secure Connection (VPN) แบบ Unlimited ไม่จำกัด

** กรณีที่โปรแกรม Kaspersky VPN ยังเป็นเวอร์ชั่น Free หรือมี Limits 200 -300 MB ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้

1. เปิดโปรแกรม ไปที่เมนู Enter Activation Code มุมขวามมือ หรือ อาจจะอยู่ มุมล่างซ้ายมือของโปรแกรม

2. ป้อน รหัสติดตั้งโปรแกรม 20 หลัก

3. กด Activate เป็นอันเรียบร้อย

ตัวอย่าง Activation code (รหัสติดตั้งโปรแกรม 20 หลัก )

** แบบกล่องที่ได้รับจากอีเมลที่ใช้ในการลงทะเบียน หรือ อีเมลที่ใช้ในการสั่งซื้อออนไลน์ ตามภาพตัวอย่างด้านล่าง

หน้าโปรแกรมหลัก หรือ แอป จะแสดงคำว่า : Unlimited พร้อมใช้งานได้แบบไม่จำกัด เป็นอันเรียบร้อย

Kaspersky VPN คุณสามารถท่องโลกอินเทอร์เน็ตได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย!

วิธีการใช้งานโปรแกรม VPN

1.เปิดโปรแกรม Kaspersky VPN
หน้าหลักของ VPN ให้ กด ” Click here to enable ” (ปุ่มตรงกลาง) เพื่อเปิดการเชื่อมต่อ

2. สถานะ สีเขียว ” Your connection is secure ” เชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว

หลังจากนั้นคุณสามารถใช้งาน Kaspersky VPN ได้อย่างปลอดภัย

3. จะพบรายละเอียด วิธีการเลือกเซิร์ฟเวอร์ กด Close

4. กดที่ Location หรือ ช่อง Fastest Server

ระบบจะแสดง All Locations เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด ให้คุณเลือกมากมาย อาทิ Algeria ,Andorra , Australia ฯลฯ.

คุณสามารถเลือก “Smart Server” เพื่อให้ระบบเลือก Server ที่ดีที่สุด ณ เวลานั้นให้ทันที

เมื่อเลือก เซิร์ฟเวอร์ ที่ดีที่สุด เรียบร้อย จะข้อมูล เซิร์ฟเวอร์ ที่เลือก ในช่อง Location

วิธีการตั้งค่า Setting และ เมนูต่างๆ

ค่าเริ่มต้นของโปรแกรม หลังมีการ Activate แบบ Unlimited เรียบร้อยแล้ว สามารถใช้งาน Kaspersky VPN ได้อย่างปลอดภัยได้เลย

แต่กรณีที่ต้องการตั้งค่าเพื่อให้เหมาะการการใช้งานและมีประสิทธิภาพสูงสุด ลองศึกษาการตั้งตามด้านล่างนี้

เมนู ต่างๆ ดังภาพตัวอย่างนี้

Home หน้าหลักของโปรแกรม

หน้า Useful to know

Kaspersky VPN สร้างความปลอดภัยทุกที่ ทุกเวลา
การใช้ Wi-Fi สาธารณะไม่จำเป็นว่าต้องสุ่มเสี่ยง คุณจะได้รับการปกป้องจากทุกหนแห่ง
รักษาความปลอดภัยที่อยู่ IP ของคุณ แม้ในฮอตสปอต Wi-Fi ที่ไม่ปลอดภัย

Kaspersky VPN เซิร์ฟเวอร์ที่จัดสรรมาเพื่อการสตรีมและการดาวน์โหลดผ่านทางทอร์เรนต์
เข้าถึงเนื้อหาความบันเทิง Netflix, Amazon Prime Video และ Disney+ มากมาย

Kaspersky VPN เพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม
รับประสบการณ์น่าประทับใจแบบไม่มีสะดุด และได้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมเมื่อเล่นกับเพื่อนจากทั่วโลก

Kaspersky VPN เชื่อมต่อผ่านเซิร์ฟเวอร์กว่า 2,000 เซิร์ฟเวอร์ในสถานที่กว่า 100 แห่ง

เมนู Other device


แสดงรายละเอียด Download link สำหรับการติดตั้งกับอุปกรณ์
สามารถใช้อุปกรณ์ที่ต้องการติดตั้ง สแกน QR Code เพื่อรับไฟล์ติดตั้งได้เลย

เมนู Setting การตั้งค่า
กดปุ่ม “เมนู” ที่มุมซ้ายบนและเลือก Setting เพื่อตั้งค่า

Autorun : การตั้งค่าการเปิดเครื่องพร้อมเปิดโปรแกรม Kaspersky VPN

Design theme : คือ การตั้งค่า สีของโปรแกรม /แอป Kaspersky VPN มีให้เลือก 3 แบบ

Protocol : จะมีเมนูสำหรับการเปลี่ยน Catapult Hydra / Wire Guard ให้เลือกเปลี่ยนตามการใช้งานหรือเลือกอัตโนมัติ (Select Automatically )(แนะนำให้เปิดไว้)

Private Browsing : กำหนด Browser เพื่อการท่องเว็บแบบส่วนตัว ด้วยเครื่องมือป้องกัน บล็อกการติดตาม

Kill-Switch : ปกป้อง คุณเวลาเน็ตหลุด VPN หลุด ระบบนี้จะป้องกันไม่ให้แสดง IP Address จนกว่าจะต่อสำเร็จอีกรอบ (แนะนำให้เปิดไว้)

Smart Protection : แจ้งเตือนให้คุณเปิด VPN เมื่อพบว่าอุปกรณ์มีการเชื่อม Wi-fi สาธารณะ (แนะนำให้เปิดไว้)

เมนู Profile
แสดงรายละเอียด อายุการใช้งานที่เหลือ และอีเมลบัญชีสมาชิกที่เชื่อมต่อ และจำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ

**  Activation  Code บางประเภท    จะมีการบวกวันเพิ่ม หรือขยายอายุการใช้งาน

         1  ปี  (365+15  = 380 วัน)

    ภายใน  3  วัน หลังจาก Activate จะแสดงจำนวนอายุการใช้งานจริงของผลิตภัณฑ์  และ วันหมดอายุของผลิตภัณฑ์

เมนู Customer Service

รายละเอียด เกี่ยวกับ อุปกรณ์ /ใบอนุญาต /การเชื่อมต่อบัญชีสมาชิก /ระบบปฎิษัติการ และเวอร์ชั่นของผลิตภัณฑ์

วิธีการเปิดใช้งาน KASPERSKY VPN แบบ UNLIMITED
(สำหรับ สมาร์ทโฟน Android OS)

1.เปิดแอปพิเคชั่น Kaspersky VPN แตะที่เมนู *** จุดสามจุด

2.แตะที่เมนู Profile
3.แตะ Sign in to My Kaspersky

4.เลือกบริการ ที่ต้องการเชื่อมต่อ พร้อมกรอกข้อมูลสมาชิก
กรอก User และ Password กด Sign in เพื่อการเชื่อมต่อ

(** บัญชี Mykaspersky ที่ท่านเชื่อมต่อ จำเป็นต้องมี การเพิ่ม Activation code ของ Kaspersky VPN ชนิดแบบ Unlimited เรียบร้อยแล้ว

เมื่อเชื่อมต่อบัญชีสมาชิกเรียบร้อย สถานะแอป จะพบคำว่า Subscription Active ตรวจสอบหน้าแรกของแอป จะแสดงคำว่า : Unlimited พร้อมใช้งานได้แบบไม่จำกัด

Kaspersky VPN ช่วยให้คุณสามารถท่องอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว

แนะนำคู่มือการติดตั้งการใช้งานผลิตภัณฑ์ และ Download

สามารถเลือกผลิตภัณฑ์การใช้งาน / Download หรือทดลองใช้ที่ได้ที่ลิ้งนี้

My Kaspersky คืออะไร

My Kaspersky คือ บัญชีของคุณสำหรับจัดการการรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณพร้อมบริการต่างมากมาย ดังนี้

  • เพื่อเปิดใช้งานผลิตภัณฑ์ Kaspersky Premium
  • บริหารจัดการความปลอดภัยแบบออนไลน์ สำหรับ ทุกอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ มือถือ..
  • จัดเก็บและซิงโครไนซ์รหัสผ่านและข้อมูลส่วนตัว แอพพิเคชั่นต่างๆ เช่น Kaspersky Password Manager, Kaspersky Safe Kids, Kaspersky VPN
  • ดูข้อมูลรหัสติดตั้งโปรแกรม ผลิตภัณฑ์ สิทธิ์การใช้งาน และ วันที่หมดอายุ
  • ล็อกอุปกรณ์มือถือของคุณจากระยะไกล ระบุตำแหน่ง และปกป้องข้อมูลส่วนตัว ในกรณีที่อุปกรณ์ของคุณสูญหาย หรือถูกขโมย
  • ติดต่อฝ่ายสนับสนุนทางเทคนิค รับบริการหลังการ Premium Support จาก Kaspersky Lab

สมัครสมาชิกบัญชีได้ อย่างไร

ในขั้นตอนระหว่างการติดตั้งโปรแกรม แอปแคสเปอร์สกี้ จำเป็นต้องมี สมาชิกบัญชีMyKaspersky สำหรับการเปิดใช้งานผลิตภัณฑ์จะพบข้อความดังนี้
Sign in to save subscription หรือ Sign in to restore subscription
หากคุณยังไม่มี บัญชีสมาชิกMyKaspersky เราจะสร้างบัญชีสมาชิกได้ทันทีตามบริการได้ล่างนี้


1.สมัครบริการด้วยการเชื่อมกับ Google
2.สมัครบริการด้วยการเชื่อมกับ Facebook
3.สมัครบริการด้วยการเชื่อมกับ Apple ID
4.สมัครบริการด้วยการเชื่อม Yandex ID
5.สมัครบริการด้วยการเชื่อม VK ID

** สำหรับการติดตั้ง Kaspersky Standard Kaspersky Plus ในเครื่องคอมพิวเตอร์
ท่านสามารถเลือกที่เมนูปุ่ม Skip เพื่อข้ามขั้นตอนนี้
หรือ เลือกที่เมนูปุ่ม I have an subscription เพื่อทำการป้อน Activation Code รหัสติดตั้งโปรแกรม 20 หลัก

วิธีสมัครสมาชิกบัญชี my kaspersky ด้วยอีเมล

1..png

วิธีการลงชื่อเข้าใช้ (Sign in My kaspersky) เพื่อใช้ผลิตภัณฑ์

2..png

วิธีการเชิญ หรือ การแชร์ให้คนอื่น (Invite )

การเชิญ Invite หรือ การแชร์ให้คนอื่น
ในฐานะเราเป็นเจ้าของMykaspersky Owner “รหัสติดตั้งโปรแกรม Activation code ” ต้องการแชร์หรือ แบ่งปันให้กับเพื่อน คนในครอบครัว หรือคนอื่นๆ
แต่บุคคลเหล่านั้นจะไม่สามารถเข้าถึงบัญชีผู้ใช้ บัตรธนาคาร หรือข้อมูลส่วนตัวของคุณ ได้
และคนเหล่านั้น เขาอาจจะมีบัญชี Mykaspersky อยู่แล้ว หรือ ไม่ต้องการจะสมัคร บัญชี Mykaspersky
จำเป็นต้องให้ เจ้าของบัญชี Mykaspersky Owner ทำการ เชิญ หรือ Invite ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

วิธี รีเซ็ตรหัสผ่าน Reset Password

มีบัญชีสมาชิก My Kaspersky เรียบร้อย หรือ ลองสมาชิกเป็นสมาชิกไว้นาน แต่ จำรหัสบัญชีสมาชิกไม่ได้
ให้เลือก เมนู ” ลืมรหัสผ่านของคุณใช่ไหม / Forgot your Password ? ”

เพื่อทำการเปลี่ยน รหัสผ่านใหม่ ขั้นตอนดังต่อไปนี้


วิธีการรับบริการ Premium Service มี 2 ช่องทางดังนี้

  1. ผ่านบัญชีสมาชิก MyKaspersky Account ไปที่เมนู Identity เลื่อนไปด้านล่างสุด แถบ Premium Support Services กดที่ Live Chat

2. ผ่าน Live Chat ที่โปรแกรม Kaspersky Premium ไปที่เมนู Identity เลื่อนไปด้านล่างสุด แถบ Premium Support Services กดที่ Live Chat

** ท่านจำเป็นต้องมีบัญชี Mykaspersky ก่อนรับบริการนี้ Premium Support Services

*** รองรับเวอร์ชั่น แชท สนทนา ภาษาอังกฤษ เท่านั้น

โดย Team Support Kaspersky เมืองนอก

การขอรับบริการรีโมทติดตั้งโปรแกรม Kaspersky Premium

1. เข้าทีลิงก์นี้ https://my.kaspersky.com/ และ ทำการ Sign in MyKaspersky Account

ท่านจำเป็นต้องมีบัญชี Mykaspersky ก่อนรับบริการนี้ Premium Support Services

2.ป้อน รหัสติดตั้งโปรแกรม Kaspersky Premium และ กด Add / เพิ่ม

3. ไปที่เมนู Identity เลื่อนไปด้านล่างสุด แถบ Premium Support Services กดที่ Live Chat

4. ใส่ ชื่อผู้รับบริการ และ กด Accept

5. พบหน้ารายละเอียดกด Click here เพื่อดาวโหลด กด OK และตามด้วย Run

6. พบสัญลักษณ์รูปหูฟัง บนหน้าจอคอมพิวเตอร์

ตัวอย่าง ในระหว่างการรับบริการรีโมท จะพบสัญลักษณ์ มุมขวาบนขอหน้าจอคอมพิวเตอร์

ตัวข้อความเมื่อบริการรีโมทเรียบร้อยแล้ว

** การรับบริการรีโมทติดตั้งโปรแกรมจากทีม Support ของ Kaspersky Lab ต่างประเทศโดยตรง คุณจะได้รับบริการนี้ภายใต้ความปลอดภัยสูงสุด

ป้อน Code ชุดใหม่ ไม่ผ่าน Cannot add an activation code

พบข้อความว่า Cannot add an activation code for the subscription with auto-renewal as a new code.!!

สาเหตุ : เกิดจาก Activation code เป็นคนละชนิด กับ Products เวอร์ชั่นใหม่
คำแนะนำและแนวทางการแก้ไข 2 แบบดังนี้

  1. รอให้โปรแกรมเดิม หรือ License เดิมหมดอายุก่อน และค่อยป้อน Activation Code ชุดใหม่อีกครั้ง
  2. ไม่รอ จำเป็น, ต้องการเปิดใช้งาน Activation Code ชุดใหม่ทันที

แบบที่ 2 จำเป็นต้อง ทำการลบ License Key เดิม ระบบจะตัดอายุวันเดิมทิ้ง
ดูขั้นตอนการลบ License Key เดิมตามด้านล่างนี้

2.1 เปิด Kaspersky โปรแกรมหลัก ไปที่เมนู License หรือ Subscription มุมขวาล่าง

2.2 กด Show Details พบรายละเอียด License Key 32 หลัก

2.3. กด รูปถังขยะ หรือ Remove /Delete Key

2. 4 กด Delete เพื่อยืนยัน ถือว่า ทำการลบเรียบร้อย

ให้กด Enter Activation code : XXXXX-XXXXX-XXXXX-XXXXX กด Activate กด Done เป็นอันเปิดใช้งาน Code ชุดใหม่เรียบร้อย

เงื่อนไขใหม่เกี่ยวกับ License / Subscription

โปรแกรม  Kaspersky   แสดงสถานะ ว่า   “Subscription is  Active ”    เป็นอันเปิดใช้งานผลิตภัณฑ์เรียบร้อย

**  Activation  Code บางประเภท    จะมีการบวกวันเพิ่ม หรือขยายอายุการใช้งาน

         1  ปี  (365+15  = 380 วัน)

          2  ปี  ( 7300+15 =745วัน)

ภายใน  3  วัน หลังจาก Activate จะแสดงจำนวนอายุการใช้งานจริงของผลิตภัณฑ์  และ วันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ 

กรณีเปลี่ยนเครื่อง ย้ายเครื่อง

ตลอดอายุการใช้งานผลิตภัณฑ์ ทั้งแบบ รายเดือน ,รายปี 1 ปี หรือ 2 ปี
กรณีผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริการ ยังไม่หมดอายุ สามารถ เปลี่ยน / ย้ายเครื่อง /ลงใหม่ได้ มีรายละเอียดดังนี้ค่ะ

1.กรณีเครื่องคอมพิวเตอร์ /อุปกรณ์เดิม ,เปิดไม่ติด พัง,เข้า Windows ไม่ได้
ท่านสามารถติดตั้ง Kaspersky บนเครื่องใหม่ ใช้ Activation code 20 หลักชุดเดิม หรือเชื่อมบัญชี MyKaspersky Account ที่มี Code เดิมในบัญชี

เพื่อใช้งานต่อไปครบตลอดอายุการใช้งานที่เหลือ

  ** กรณี Kaspersky Premium จำเป็นต้องเข้าที่บัญชี MyKaspersky Account ที่มี Code เดิมในบัญชี เลือกที่ อุปกรณ์เดิม เลือก Disconnect /ตัดการเชื่อมต่อ

จากนั้นค่อยมาติดตั้งโปรแกรมในเครื่องคอมพิวเตอร์ และเชื่อมบัญชี Mykaspersky บัญชีเดิม เพื่อใช้งานต่อไปครบตลอดอายุการใช้งานที่เหลือ

2.กรณีเครื่องเดิมใช้งานได้ แต่มีความประสงค์เปลี่ยนเครื่องใหม่

2.1 ทำการถอนโปรแกรม Kaspersky ในเครื่องเดิมออก ให้หมด

2.2.ติดตั้ง Kaspersky ในเครื่องใหม่ ใช้ Activation code 20 หลักชุดเดิมได้ตลอดอายุการใช้งานที่เหลือ

 ** กรณี Kaspersky Premium จำเป็นต้องเข้าที่บัญชี MyKaspersky Account ที่มี Code เดิมในบัญชี เลือกที่ อุปกรณ์เดิม เลือก Disconnect /ตัดการเชื่อมต่อ

จากนั้นค่อยมาติดตั้งโปรแกรมในเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ และเชื่อมบัญชี Mykaspersky บัญชีเดิม เพื่อใช้งานต่อไปครบตลอดอายุการใช้งานที่เหลือ

3.กรณีเครื่องเดิม จำเป็นต้อง Format ลง Windows ใหม่

3.1ต้องทำการ Delete License key ในโปรแกรม ดังนี้

3.1.1 เปิด Kaspersky ไปที่เมนู License หรือ Subscription มุมขวาล่าง

3.1.2 กด Show Details พบรายละเอียด License Key 32 หลัก

3.1.3 กด รูปถังขยะ หรือ Remove /Delete Key

3.1.4 กด Delete เพื่อยืนยัน ถือว่า ทำการลบเรียบร้อย

3.2.ติดตั้ง Kaspersky บนเครื่องใหม่ ใช้ Activation code 20 หลักชุดเดิม ไปครบตลอดอายุการใช้งานที่เหลือ

 ** กรณี Kaspersky Premium จำเป็นต้องเข้าที่บัญชี MyKaspersky Account ที่มี Code เดิมในบัญชี เลือกที่ อุปกรณ์เดิม เลือก Disconnect /ตัดการเชื่อมต่อ

จากนั้นค่อยมาติดตั้งโปรแกรมใหม่ และเชื่อมบัญชี Mykaspersky บัญชีเดิม เพื่อใช้งานต่อไปครบตลอดอายุการใช้งานที่เหลือ

กรณีรหัสติดตั้งโปรแกรมสูญหาย

เบื้องต้นลูกค้าสามารถทำการค้นหา ด้วยตัวเอง ได้ตามนี้ค่ะ

1.ค้นหาจากอีเมลที่ท่านได้ทำการลงทะเบียนผลิตภัณฑ์แบบกล่อง (ค้นหาด้วยคำว่า ” Kaspersky ” ,” Activation Code ” )

2.ค้นหาจากข้อความ SMS (ส่งจาก Kaspersky )

3.ค้นหาจากกล่อง Package ในกล่องจะมี Getting Started Serial Number ท่านอาจจะจดบันทึกไว้ใน

ตามภาพตัวอย่างนี้

1.ค้นหาจากอีเมลที่ท่านได้ทำการลงทะเบียนผลิตภัณฑ์แบบกล่อง (ค้นหาด้วยคำว่า ” Kaspersky ” ,” Activation Code ” )

2.ค้นหาจากข้อความ SMS (ส่งจาก Kaspersky )

3.ค้นหาจากกล่อง Package ในกล่องจะมี Getting Started Serial Number ท่านอาจจะจดบันทึกไว้ใน

ตามภาพตัวอย่างนี้

กรณีที่ไม่พบตามรายการข้างต้น ติดต่อเจ้าหน้าที่ Support Tel : 02-2037500 หรือ Line ID@thaikaspersky

แจ้งข้อมูลที่ท่านได้ลงทะเบียน หรือ ข้อมูลในการสั่งซื้อ ดังต่อไปนี้ อีเมล ,เบอร์โทร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ค้นหาและทำการ ส่งให้ใหม่อีกครั้งค่ะ

พบปัญหาแชร์ไดร์ฟ หรือไม่พบ Printer บน Network

กรณีพบปัญหาการแชร์ไดร์ฟไม่ได้ ให้ตั้งค่า ขั้นตอนที่ 1 – 8

กรณีไม่พบ Printer บน Network ให้ทำครบทุกขั้นตอน 1- 9

แนวทางการแก้ไข ตั้งค่าดังต่อไปนี้

2.คลิกที่แถบ Security Settings

4.เลื่อนลงมาล่างสุด คลิกที่เมนู Available Networks

5.ไปที่ชื่อ Network ที่เครื่องนี้ Connected หรือ เชื่อมต่อ (ชื่อ LAN / IP Address /Wifi Routor ) ให้คลิกขวา เลือก Edit

6.ไปที่เมนู Network type กดที่ลัญลักษณ์ลูกศรลง

7.เลือกที่ คำว่า Trusted Network

8.กด Save เพื่อบันทึก

จากนั้นให้ทำการทดลอง แชร์ไดร์ฟ อีกครั้ง

9.ไปที่เมนู Default Printer ติกเครื่องถูก ที่เมนู Select printer on connection to network กดที่ลัญลักษณ์ลูกศรลง เพื่อเลือกรุ่น Printer ที่เชื่อมและใช้งาน พร้อมทำการ กด Save เพื่อบันทึก การตั้งค่า

จากนั้นให้ทำการทดลอง แชร์ไดร์ฟ หรือ ทำการ Print พิมพ์เอกสาร

วิธีการเข้ารหัสความปลอดภัยหรือสร้างตู้นิรภัยให้กับข้อมูล / How to Encryption Data

1. ในหน้าต่างหลักของ Kaspersky Total Security คลิก   More Tools

2. ในหน้าต่างหลักของ  Data Protection คลิก    Data Encryption

3. คลิก I already have a data vault

หากยังไม่มีให้เลือก Crate new data vault 

 4. ระบุเส้นทางไปยังตู้นิรภัยข้อมูล และ   คลิก Select

ตู้นิรภัยข้อมูลของคุณจะถูกแสดงในหน้าต่าง Data Encryption

 5. คลิก Unlock  ทางด้านขวาของตู้นิรภัยที่ถูกเชื่อมต่อ

  6. กรอกรหัสผ่านและคลิก Open in Windows explorer

ตู้นิรภัยถูกเชื่อมต่อกับ Kaspersky Total Securityอีกครั้ง

How to restore data from a backup / How to restore data from backup in Kaspersky Total Security

1. เปิดตัวโปรแกรม Kaspersky ขึ้นมาคลิกไปที่    Backup and Restore.

2.  เลือกงานที่ต้องการ restore กด Restore files.

3. ใส่ Password ที่ตั้งค่าไว้กด OK.

 4. เลือกไฟล์ที่ต้องการ Restore กด Restore selected files.

 5. เลือกที่จัดเก็บไฟล์ที่ต้องการ Restore กด Restore.

  6. Restore ข้อมูลเสร็จสมบูรณ์กด Close

วิธีสำรองข้อมูลให้ปลอดภัย / How to create a backup Data

การกู้คืนข้อมูลที่โดน Ransomware หรือ ไวรัสเรียกค่าไถ่ เข้ารหัสนั้นเป็นเรื่องยาก และจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง  แต่การหลีกเลี่ยงการติดเชื้อนั้นเป็นหนทางที่ดีที่สุดเช่น ไม่โหลดไฟล์ที่น่าสงสัย, ไม่คลิ๊กลิงค์น่าสงสัย, หรือเปิดไฟล์แนบ e-mail ที่มาจากผู้ส่งที่ไม่รู้จักหรือไม่คาดคิดนอกจากนั้นการสำรองไฟล์ของคุณอย่างสม่ำเสมอยังเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง แม้ Ransomware หรือ ไวรัสเรียกค่าไถ่ จะล็อคหรือบล๊อคไฟล์ของคุณ คุณก็สามารถกู้คืนไฟล์กลับมาได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่. 

Kaspersky ขอแนะนำให้ใช้ส่วนเสริม Backup and Restore ของ Kaspersky Total Security  

ซึ่งช่วยคุณจัดการทุกอย่างตามแนวทางที่คุณต้องการ 

How to create a backup task in Kaspersky Total Security

วิธีการสำรองข้อมูล  

ตัวอย่างด้านล่างจะเป็นการสร้างไฟล์ Back up บนอุปกรณ์ภายนอก (Removable drive)

1.  เปิดตัวโปรแกรม Kaspersky ขึ้นมาคลิกไปที่ Backup and Restore.

2. คลิก   Select files for back up. 

3.  สร้างไฟล์ backup จากโฟลเดอร์ที่กำหนดไว้คลิก   Next

 4. คลิก Add folderเพื่อเลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการ หรือสามารถลากโฟลเดอร์ที่ต้องการเข้ามาได้เลย

 5. คลิก Next.

 6. เลือกอุปกรณ์ที่จะใช้สำรองข้อมูล

 7.  คลิก Next.


8. เลือกช่วงเวลาที่ต้องการ Back up คลิก Next.

(ในกรณีเลือกสำรองข้อมูลไปที่อุปกรณ์ภายนอกในคลิกถูกตรง Run backup on connecting the removable drive)

  
9. คลิกเครื่องหมายถูกที่ Copy Kaspersky Restore Utility to storage กด  Next.

10.  คลิกเครื่องหมายถูก Enable password protectionตั้งค่า Password กด Next.

11.  ปรับค่า storage settings  กด Next.

– กําหนดจํานวนรุ่นของ backup ที่จะสํารองในที่จัดเก็บ

– กําหนดระยะเวลาของรุ่นของ backup สํารอง


12. ตั้งชื่องานตามต้องการ คลิกเครื่องหมายถูกในช่อง Run backup upon wizard completion.

กด Next.

13. กด Done.

14. เมื่อการตั้งค่าเสร็จสมบูรณ์ จะปรากฏงานที่เราสร้างไว้ในหน้าต่างBackup and Restore

วิธีการตั้งค่าป้องกัน Ransomware / How to prevent infection 

1. ตรวจสอบและทำการ Update Windows ให้เป็น Patch ล่าสุด

2. ตรวจสอบ Database ของ  Kasperskyให้เป็นวันปัจจุบันล่าสุด

3. ตั้งค่าฟังก์ชั่น File Anti-Virus เพิ่มเติมตามรูปด้านล่าง

4. ตั้งค่าฟังก์ชั่น  Web Anti-Virus เพิ่มเติมตามรูปด้านล่าง

5. ตรวจสอบว่าได้เปิดฟังก์ชั่น System Watcher ไว้ และ กดเข้าไปตั้งค่าเพิ่มเติม ตามรูปด้านล่าง

6. ตั้งค่าฟังก์ชั่น   Mail Anti-Virus  เพิ่มเติมตามรูปด้านล่าง 

โดนไวรัส แล้วโฟลเดอร์ในแฟลซไดร์ฟถูกซ่อนไว้ แก้กลับไม่ได้

          หากแฟลซไดร์ฟของคุณติดไวรัสประเภทซ่อนโฟลเดอร์ ให้คุณสแกนไวรัสด้วยโปรแกรม Kaspersky เพื่อให้จัดการไวรัสให้เรียบร้อยก่อน แต่โฟลเดอร์ที่ซ่อนไว้เหล่านั้นอาจจะยังไม่สามารถทำให้แสดงผลตามปกติได้ (ปรับ Folder Option ให้แสดงผล Hidden file แล้ว) ซึ่งจะเป็นสีจางๆ ดังรูปด้านบน

          และหากคุณคลิกขวาที่โฟลเดอร์ เพื่อเปลี่ยน Properties ให้ยกเลิก Hidden (การซ่อน) แต่กลับไม่สามารถทำได้ ให้คุณแก้ปัญหาโดยใช้คำสั่ง DOS ด้วยวิธีดังนี้

1. คลิกปุ่ม start

2. คลิก Run…

3. พิมพ์ cmd

4. คลิกปุ่ม OK

5. พิมพ์ชื่อไดรว์ของแฟลซไดร์ฟ เช่น ถ้าเป็นไดร์ฟ k ก็ให้พิมพ์ k: แล้วกดปุ่ม Enter บนคีย์บอร์ด

6. พิมพ์ attrib -s -h -r /s /d แล้วกดปุ่ม Enter

7. รอจนแสดงเคอร์เซอร์ดังรูป จากนั้นให้ปิดหน้าต่างนี้

8. เมื่อกลับไปดูที่ไดรว์ของแฟลซไดร์ฟ จะพบว่า โฟลเดอร์กลับมาแสดงผลตามปกติแล้ว

We use cookies to improve performance. and a good experience using your website. You can study the details at Privacy Policy and you can manage your own privacy by clicking Set up

Privacy Preferences

You can choose your cookie settings by turning them on/off. Cookies in each category can be customized according to your needs, except for essential cookies.

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save