แม้จะอยู่บนที่สูง ภัยคุกคามทางไซเบอร์ก็ยังคงต้องโจมตีชีวิตดิจิทัลของคุณได้ เห็นได้จากข่าวการจับกุมเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ออสเตรเลียผู้โดยสารคนหนึ่งถูกจับกุมในข้อหาติดตั้ง Wi-Fi hotspots ปลอม ทั้งที่สนามบินและบนเครื่องบินระหว่างเที่ยวบิน
Evil twins จุดเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่เป็นอันตรายซึ่งดักจับข้อมูลของผู้ใช้ กำลังกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง Evil twins คือ Wi-Fi hotspots ปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ดูเหมือนกับของจริง เมื่อผู้ใช้งานเชื่อมต่อกับ WiFi ปลอมนี้ แฮกเกอร์สามารถดักจับข้อมูลที่ผู้ใช้งานส่งผ่านเครือข่ายนั้นได้ เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลบัตรเครดิต หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของ Evil twins ควรตรวจสอบชื่อเครือข่าย WiFi ให้แน่ใจว่าถูกต้อง และใช้ VPN เพื่อเข้ารหัสข้อมูลที่ส่งผ่านเครือข่ายสาธารณะ
ในปัจจุบัน ผู้โดยสารมีแนวโน้มที่จะใช้ Wi-Fi บนเที่ยวบินมากขึ้น เพราะสายการบินต่างๆ หันมาเสนอความบันเทิงที่สตรีมโดยตรงไปยังอุปกรณ์ของผู้โดยสารมากขึ้นเรื่อยๆ แทนที่จะส่งไปที่หน้าจอเบาะที่นั่ง หลังจากเครื่องขึ้นบิน เชื่อมต่อกับ Wi-Fi เปิดเบราว์เซอร์ก็เข้าสู่พอร์ทัลสื่อของสายการบินได้แล้ว และหากผู้โดยสารที่ไม่ทันระวังตัวได้เชื่อมต่อไปยังเครือข่ายปลอม จะถูกนำไปยังหน้ายืนยันตัวตนปลอม หน้านี้ขอที่อยู่อีเมลและรหัสผ่าน! หรือข้อมูลรับรองเครือข่ายโซเชียล ซึ่งอ้างว่าเพื่อลงชื่อเข้าใช้บริการออนไลน์ของสายการบิน ตามรายงานของตำรวจ ผู้กระทำความผิดตั้งใจใช้ข้อมูลนี้เพื่อแฮ็กบัญชีและเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
วิธีใช้ Wi-Fi บนเครื่องบินอย่างปลอดภัย
ปกติแล้วสิ่งที่เราแนะนำคือ ใช้อินเตอร์เน็ตจาก 4G/5G แทน Wi-Fi สาธารณะ หากมีความจำเป็นต้องใช้ Wi-Fi สาธารณะจริงๆ ให้ปกป้องการเชื่อมต่อของคุณด้วยVPN ที่เชื่อถือได้
และด้านล่างนี้ คือคำแนะนำเฉพาะเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน Wi-Fi บนเที่ยวบิน:
1. อย่าเพิ่งเชื่อมต่อ Wi-Fi บนเครื่องบินเพียงเพราะอยากรู้ว่ามีอะไรให้บริการบ้าง
2. เตรียมตัวให้พร้อม ดาวน์โหลดภาพยนตร์และเพลงลงในอุปกรณ์ของคุณล่วงหน้า จะได้ไม่ต้องพึ่งความบันเทิงจากสายการบิน เมื่อทำเสร็จแล้ว คุณอาจไม่จำเป็นต้องใช้ Wi-Fi บนเครื่องบินเลย
3. หากคุณยังต้องการ Wi-Fi โปรดอ่านคำแนะนำในกระเป๋าสัมภาระของคุณอย่างละเอียด ซึ่งควรมีชื่อ Wi-Fi อย่างเป็นทางการและขั้นตอนการเชื่อมต่อระบุไว้
4. ระวังความคลาดเคลื่อน หากการเชื่อมต่อ Wi-Fi ดูเหมือนจะไม่ตรงกับคำแนะนำ หรือหากถูกขอให้ป้อนข้อมูลส่วนบุคคลอย่างละเอียด เช่น อีเมล รหัสผ่าน รายละเอียดหนังสือเดินทาง หรือข้อมูลการชำระเงิน ให้ตัดการเชื่อมต่อทันทีและแจ้งเจ้าหน้าที่บนเครื่องบิน ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าจำเป็นต้องใช้ข้อมูลนี้เพื่อใช้งาน Wi-Fi หรือไม่ แสดงหน้าจออุปกรณ์ให้พวกเขาดูเพื่อให้พวกเขาสามารถตรวจสอบความถูกต้องของอินเทอร์เฟซการเชื่อมต่อได้
5. หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดอะไรก็ตามระหว่างเที่ยวบิน การเชื่อมต่อกับเครือข่ายของเครื่องบินไม่ควรต้องติดตั้งแอป ปลั๊กอิน หรือใบรับรอง หากได้รับแจ้งให้ติดตั้งสิ่งใดๆ ในลักษณะดังกล่าว ให้ยกเลิกการเชื่อมต่อทันทีโดยเปิดใช้งานโหมดเครื่องบิน
6. หากคุณเชื่อมต่อกับ Wi-Fi เพื่อใช้อินเทอร์เน็ตบนเครื่องบิน ให้ลองเปิดใช้งาน VPN ทันทีที่เชื่อมต่อสำเร็จ หากไม่สามารถเปิดใช้งาน VPN ได้ ให้ลดกิจกรรมออนไลน์ของคุณลง และอย่าลงชื่อเข้าใช้บริการที่ละเอียดอ่อน เช่น บริการธนาคารออนไลน์ เว็บไซต์ของรัฐบาล หรืออีเมล
7. จำกัดจำนวนอุปกรณ์ที่คุณเชื่อมต่อกับ Wi-Fi บนเที่ยวบินให้น้อยที่สุด ไม่ควรมีมากกว่าหนึ่งเครื่อง
8. หากคุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก่อนลงจอด โปรดไปที่การตั้งค่า Wi-Fi และเลือก “forget” เครือข่ายของสายการบิน จากนั้นคุณสามารถตั้งค่าอุปกรณ์เป็นโหมดเครื่องบินได้ ตามที่ข้อบังคับการบินกำหนด